06.00 น. อรุณสวัสดิ์ ณ จังหวัดเชียงใหม่ รับประทานอาหารเช้า (1) ที่ ครัวพิษณุโลก
07.00 น. เปลี่ยนเป็นรถตู้ปรับอากาศ (เพื่อความคล่องตัวในการท่องเที่ยว) ออกเดินทางสู่ ดอยแม่สลอง แหล่งปลูกชากว้างขวาง กลายเป็นยอดดอยที่มีการปลูกชามากที่สุดของเมืองไทย มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา แถมรสชาติชายังอร่อย มีการส่งขายทั้งในและต่างประเทศ และด้วยความที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 1,200 เมตร จึงมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี บ้านเรือนและวัฒนธรรมที่ผสมผสานความเป็นจีนเข้าไปด้วย โดยมีผู้อพยพจากกองพล 93 จากเมียนมาเข้ามาในประเทศไทย จำนวน 2 กองพัน โดยกองพันที่ 3 อยู่ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และกองพันที่ 5 อยู่ที่บ้านแม่สลองนอก หรือหมู่บ้านสันติคิรีในปัจจุบัน
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันอิสระ ที่ บ้านสันติคีรี
บ่าย ชม ไร่ชา 101 ไร่ชาขนาดใหญ่ที่ผลิตชาแบบดั้งเดิม ไม่ใส่สารกันบูด ไม่แต่งสีแต่งกลิ่น ชม อนุสรณ์ชาวไทยเชื้อสายจีน สร้างเพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของอดีตทหารจีนคณะชาติในอดีต ออกแบบสวยงามตามสถาปัตยกรรมจีน มีทั้งป้ายวิญญาณของเหล่าทหารผู้วายชนม์ และพิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของทั้งทหารจีนคณะชาติและหมู่บ้านดอยแม่สลอง ชม สุสานนายพลต้วน ซี เหวิน อดีตผู้นำทหารจีนฮ่อแห่งกองพันที่ 5 กองพล 93 ตั้งอยู่บนเนินเหนือหมู่บ้าน ระดับความสูงประมาณ 1,300 เมตร ตัวสุสานสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหมด อยู่ภายในศาลาเก๋งจีนขนาดใหญ่ สีขาว พื้นปูหินอ่อน บริเวณที่ตั้งสุสานยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ของดอยแม่สลองมุมสูงได้ด้วย ชม พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี ตั้งอยู่บนยอดสูงสุดที่ระดับความสูง 1,500 เมตร สร้างแล้วเสร็จเมื่อราวปี พ.ศ. 2539 เป็นเจดีย์แบบล้านนาประยุกต์ บนฐานสี่เหลี่ยมลดชั้น สูงประมาณ 30 เมตร ฐานกว้างด้านละประมาณ 15 เมตร มีมุมให้ชมวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล พร้อมด้วยอาคารแบบล้านนาประยุกต์งดงาม ชม ถนนดอกซากุระ บริเวณริมสองฟากฝั่งถนนเข้าสู่หมู่บ้านสันติคีรี ทั้งด้านกิ่วสะไต และบ้านอีก้อสามแยก จะปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งเรียงรายเป็นระยะทางยาวกว่า 4 กิโลเมตร มักจะออกดอกบานสะพรั่งสวยงามในช่วงต้นเดือนมกราคม ของทุกปี จนได้เวลาเดินทางสู่ เชียงราย
18.00 น. รับประทานอาหารค่ำอิสระ ที่ งานเชียงรายดอกไม้งาม ครั้งที่ 21 (27/12/67 -16 ก.พ. 68) ชม ทิวลิปบาน ใจกลางนครเชียงราย ณ สาธารณะหาดนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย มาสูดบรรยากาศเมืองหนาวของนครเชียงราย และดอกไม้นานาพันธุ์
พักที่ (N1) โรงแรม วัน บัดเจด สนามกีฬาเชียงราย หรือเทียบเท่า ห้องละ 2- 3 ท่าน
04.30 น. ปลุกท่านยามเช้า เพื่อเดินทางไปชมความงดงามของภูชี้ฟ้า ระหว่างทางผ่านจุดชมวิวต่างๆ
06.00 น. นำท่านชม ภูชี้ฟ้า ภูชี้ฟ้าเป็นยอดเขาสูง สูงจากระดับน้ำทะเล 1,628 เมตร ด้านที่ติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีหน้าผาสูงชัน เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ในฤดูหนาวจะมี ทิวทัศน์สวยงามเป็นพิเศษ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก (เดินทางเท้าประมาณ 800 เมตร จากลานจอดรถ)
08.00 น. รับประทานอาหารเช้า(2)ที่ อุกฤษฟาร์มฮิลล์
นำท่านชม ดอยผาตั้ง เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่น ซึ่งเป็นเทือกเขาแนวพรมแดนไทย-ลาว สูง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ดอยผาตั้งถือเป็นเป็นจุดชมวิวไทย-ลาว และทะเลหมอกที่ สวยงามไม่แพ้ภูชี้ฟ้า บนจุดชมวิวจะเป็นแนวเขาซึ่งชมวิวได้ตลอดแนว นอกจากนั้นบนดอยยังมีจุดที่น่าสนใจ คือ ผาบ่องประตูสยาม ซึ่งเป็นประตูที่สร้างขึ้นในช่องเขาเพื่อกั้นพรมแดนไทย-ลาว ไม่ให้คนข้ามผ่านไปมาได้ เมื่อขึ้นถึงยอดภูแล้ว ส่งที่จะได้เห็นคือ ช่องเขาขาด เป็นช่องเขาที่หินขาดจากกันมองเห็นแม่น้ำโขงพาดผ่านตรงช่องเขาขาดพอดี และมักเกิดทะเลหมอกที่มาปรากฎในบริเวณช่องเขาขาดนี้อยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมจะมีความสวยงามเป็นพิเศษ เนื่องจาก ดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูและดอกเสี้ยวสีขาวจะบานสะพรั่งงดงาม นอกจากนั้นบนดอยยังมีจุดที่น่าสนใจ คือ 1)อนุสรณ์นายพลหลี่ 2)พระพุทธรูป 3)ป่าหินยูนนาน 4)ช่องเขาขาด 5)เนิน102 6)เนิน103
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(3) ลิ้มรสขาหมูยูนนาน
บ่าย นำท่านชม ภูชี้เดือน แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงราย ภูน้องแฝดที่สามของทั้งภูชี้ฟ้าและภูชี้ดาว ต้องเปลี่ยนเป็นรถท้องถิ่นขึ้นสู่ยอด ภูชี้เดือน เพื่อชมความสวยงาม
นำท่านชม ภูชี้ดาว ต้องเปลี่ยนเป็นรถท้องถิ่น ทางขรุขระประมาณ 3 กิโลเมตร และเดินทางเท้าขึ้นอีก 300 ม. จนถึงยอดภูชี้ดาว ซึ่งสูงกว่าทั้งภูชี้ฟ้าและดอยผาตั้ง สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของภูชี้ดาว คือ วิวของยอดเขาที่เชิดชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า วิวทิวทัศน์ของภูชี้ดาวนั้นมองเห็นได้ 360 และสามารถมองเห็นภูชี้ฟ้าและดอยผาตั้งอยู่ไกลลิบๆ ท่ามกลางฉากหลังอันเป็นแม่น้ำโขงคดเคี้ยว บวกกับธรรมชาติอันเป็นป่าสมบูรณ์ด้านล่าง จนได้เวลาเดินทางสู่ จ.เชียงราย
18.00 น. รับประทานอาหารค่ำอิสระ บริเวณ เชียงรายไนท์บาร์ซ่า เลือกซื้อสินค้าต่างๆที่ชาวเมืองเชียงรายนำออกมาขายให้กับนักท่องเที่ยวหรือชมอาหารท้องถิ่นที่มีให้เลือกชิมกันอย่างมากมาย และนักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดชม หอนาฬิกาเชียงราย ซึ่งจะมีการเปลี่ยนสีต่างๆ พร้อมเสียงเพลงประกอบ
พัก(N2) โรงแรม วัน บัดเจด สนามกีฬาเชียงราย หรือเทียบเท่า ห้องละ 2- 3 ท่าน
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า(4) ลิ้มรสข้าวซอยเชียงราย
08.00 น. นำท่านชม ไร่บุญรอด นำท่านถ่ายภาพกับสิงห์ตัวใหญ่สัญลักษณ์ของที่นี่
นำท่านชม วัดร่องขุ่น ชมวัดที่สร้างด้วยศิลปะสวยงามอลังการตามรูปแบบของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ชมโบสถ์ขาวลวดลายปูนปั้นวิจิตรงดงาม ชมภาพวาดในผาผนังในโบสถ์ ชมห้องแสดงผลงานภาพเขียนของอาจารย์เฉลิมชัย
นำท่านชม วัดร่องเสือเต้น พระวิหารหลังใหม่สีฟ้า ที่มีศิลปะที่มีความสวยงดงามแปลกตา เป็นศิลปะประยุกต์ที่เป็นเอกลักษณ์ ใช้เฉดสีเป็นสีน้ำเงินฟ้า รูปแบบของศิลปะส่วนหนึ่งมีความคล้ายกับผลงานของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และ อ.ถวัลย์ ดัชนีย์
นำท่านชม วัดห้วยปลากั้ง ภายในเจดีย์ มีเจ้าแม่กวนอิมจำลองแกะสลัก ด้วยไม้ ตรงบริเวณชั้นหนึ่งของเจดีย์ และแต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปประจำชั้นประดิษฐานอยู่ด้วย
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(5)ที่ ลานไม้หอม
บ่าย นำท่านชม วัดพระธาตุแม่เจดีย์ วัดเก่าแก่ที่ถูกทิ้งร้างไปตามกาลเวลา จนต้องบูรณะวัดถึง 3 ครั้ง โดยการบูรณะแต่ละครั้งจะค้นพบเจอโบราณวัตถุซึ่งเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ของวัด ประตูทางเข้าวัดสวยงามสะดุดตา นำท่านชม น้ำพุร้อนแม่ขะจาน บ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และบริเวณน้ำพุร้อนก็ยังเป็นทางผ่านทางการค้าขายระหว่างจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย
18.00 น. รับประทานอาหารค่ำอิสระที่ ถนนคนเดินทาง วัวลาย หรือ ท่าแพ หรือ คลองแม่ข่า แล้วเดินทางกลับกรุงเทพ
06.00 น. เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ.............
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ |
---|---|---|---|
27 ธ.ค. 67 - 31 ธ.ค. 67 | 5,999 บาท | 1,800 บาท | สอบถามเพิ่มเติม |
รายการนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม แต่คำนึงถึงลูกค้าเป็นหลัก
สิ่งของที่จำเป็นควรนำติดตัว ยาประจำตัว, รองเท้าสวมสบาย, เสื้อกันหนาว, ของใช้จำเป็น